สำหรับการทำเครื่องหมายการค้ามีอะไรบ้างนั้น วันนี้เราจึงนำความรู้ประเภทของเครื่องหมายการค้าที่ผู้ประกอบการ SMEs ต้องรู้เพื่อสร้างความเข้าใจ
โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2543 ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ เครื่องหมายการค้า, เครื่องหมายบริการ, เครื่องหมายรับรอง และเครื่องหมายร่วม
ดังนั้น เราลองมาเจาะลึกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าทั้ง 4 ประเภทกันดูครับว่า แต่ละประเภทใช้ในเครื่องอะไรบ้าง
1. เครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) ใช้เพื่อแสดงว่าสินค้าของเราแตกต่างกับสินค้าของคนอ่น เป็นคนละยี่ห้อ คนละเจ้าของกัน ทำให้ผู้บริโภคไม่สับสนถึงแหล่งที่มาของสินค้าว่ามาจากใครกันแน่ สร้างความแตกต่างระหว่างสินค้าของเราเอง
2. เครื่องหมายบริการ
เครื่องหมายบริการ (Service Mark) ใช้เพื่อแสดงว่าบริการของเราแตกต่างกับบริการของคนอื่น ผู้ให้บริการเป็นคนละเจ้ากัน ทำให้ผู้บริโภคไม่สับสนว่า ผู้ให้บริการเป็นเจ้าเดียวกันหรือไม่ สร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ของบริการของเรา
3. เครื่องหมายรับรอง
เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark) ใช้รับรองสินค้าหรือบริการของคนอื่นว่ามีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นไปตามข้อกำหนดของการรับรองนั้นๆ ไม่ได้ใช้ติดเพื่อเป็นยี่ห้อของสินค้าหรือบริการโดยตรง
4. เครื่องหมายร่วม
เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือวิสาหกิจที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กรใดๆ ของรัฐหรือเอกชน
รู้แบบนี้แล้ว ผู้ประกอบการ SMEs สามารถนำเครื่องหมายการค้ามาปรับเปลี่ยนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเราได้ครับ แต่ต้องอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าด้วยนะ เพื่อความถูกต้องในการคุ้มครองของตัวธุรกิจของเราต่อไปในอนาคตด้วยครับ
ข้อมูลอ้างอิงจาก : tuipi.tu.ac.th